จีเอ็มจำหน่ายรถทั่วโลก 2.36 ล้านคันในไตรมาสแรก

มุ่งให้ความสำคัญกับตลาดและเซกเมนท์หลักสร้างการเติบโตของผลกำไร

• ยอดขายในจีนเพิ่มขึ้นโดยได้แรงขับเคลื่อนจากกลุ่มรถเอสยูวีและรถหรู

• สหรัฐฯ มียอดขายปลีกเติบโต 7 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแบ่งการตลาดขายปลีกเพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์เต็ม

• ยอดขายโอเปิล/วอกซ์ฮอลล์ในยุโรปเติบโต 8.4 เปอร์เซ็นต์ เหนือกว่าอุตสาหกรรมในภาพรวม 

 

ดีทรอยท์ – เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอมพานี มียอดจำหน่ายรถรวมทั่วโลก 2.36 ล้านคันในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2559 บริษัทฯ มุ่งให้ความสำคัญกับตลาดหลัก นำโดยเซกเมนท์ที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงอย่างรถเอสยูวีและรถหรูในจีน รวมถึงการขายปลีกในสหรัฐอเมริกา 

 

“ยอดขายรถของจีเอ็มระดับโลกที่มีคุณภาพในกลุ่มผลิตภัณฑ์และตลาดหลักในไตรมาสแรกสอดคล้องกับความพยายามของเราที่มุ่งขับเคลื่อนการเติบโตอย่างมีผลกำไรและยั่งยืน” แดน อัมมานน์ ประธานกรรมการ จีเอ็มกล่าว “เราสามารถเพิ่มยอดขายรถเอสยูวีและคาดิลแลคที่มีการเติบโตในตลาดรถหรูอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน ขณะที่ในสหรัฐอเมริกา การดำเนินงานอย่างมีวินัยเพื่อเพิ่มยอดขายปลีก และลดการเช่ารถฟลีตทำให้เรามีผลกำไรมากขึ้น”  

 

ยอดขายของจีเอ็มในไตรมาสแรกลดลง 2.5 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากสถานการณ์ที่ท้าทายในบางตลาดของอเมริกาใต้และเอเชีย รวมถึงการชะลอตัวของตลาดรถยนต์พาณิชย์ขนาดเล็กในจีน

 

ในตลาดจีน จีเอ็มและบริษัทร่วมทุนมียอดขายอยู่ที่ 964,000 คันในไตรมาสแรกซึ่งเพิ่มขึ้น 0.2 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายรถเอสยูวีของจีเอ็มในประเทศจีนเพิ่มขึ้น 148 เปอร์เซ็นต์ นำโดยรถที่ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องอย่างบูอิค เอ็นวิชั่น และเป่าจุน 560 ขณะที่ยอดขายรถคาดิลแลคในจีนขยายตัว 6.1 เปอร์เซ็นต์

 

ยอดขายในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้น 1.2 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่ 800,000 คัน ส่วนในสหรัฐอเมริกา จีเอ็มยังคงมีส่วนแบ่งการขายปลีกที่เติบโตรวดเร็วกว่าค่ายรถรายอื่น โดยยอดขายปลีกเพิ่มขึ้น 7 เปอร์เซ็นต์หรือ 537,000 คัน

 

ในยุโรป ยอดขายรถโอเปิลและแบรนด์ในเครืออย่างวอกซ์ฮอลล์มีการเติบโต 8.4 เปอร์เซ็นต์ไปอยู่ที่กว่า 300,000 คันในไตรมาสที่หนึ่ง ซึ่งมากกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมในภาพรวมซึ่งอยู่ที่ 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โอเปิล แอสตร้าซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลรถยนต์ยอดเยี่ยมของยุโรปประจำปี 2016 มียอดสั่งซื้อมากกว่า 150,000 คัน

 

 

ไฮไลท์ยอดขายรถทั่วโลก (เทียบกับไตรมาสแรกของปี 2558) 

 

• ยอดขายคาดิลแลคทั่วโลกเพิ่มขึ้น 0.3 เปอร์เซ็นต์ โดยได้แรงขับเคลื่อนจากการเติบโต 6.1 เปอร์เซ็นต์ในจีน

• ราคาซื้อขายเฉลี่ยของคาดิลแลคในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ เหนือทุกคู่แข่ง

• ยอดขายบูอิคในจีนเพิ่มขึ้น 22 เปอร์เซ็นต์ จากการเติบโต 112 เปอร์เซ็นต์ของรถเอ็นวิชั่น เอสยูวี ยอดขายบูอิคทั่วโลกขยายตัว 19 เปอร์เซ็นต์

• ยอดขายรถปลีกของเชฟโรเลตในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 10 เปอร์เซ็นต์ ส่วนแบ่งการตลาดขายปลีกเพิ่มขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์เต็ม ไปอยู่ที่ประมาณ 11 เปอร์เซ็นต์

• เชฟโรเลตยังคงเป็นแบรนด์ที่มียอดขายสูงสุดในอเมริกาใต้

• ยอดขายของเชฟโรเลตในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้น 14.7 เปอร์เซ็นต์

• ยอดขายเป่าจุนในจีนเพิ่มขึ้น 82 เปอร์เซ็นต์ ได้แรงขับเคลื่อนจากผลตอบรับของรถ 560 เอสยูวีและ 730 เอ็มพีวี