รถสปอร์ตรุ่นพิเศษมาพร้อมกับคุณสมบัติที่โดดเด่นมากมาย สง่างามด้วยสีดำ: ปอร์เช่ บ็อกซเตอร์ (Boxster) และ 911 คาร์เรร่า แบล็ค อิดิชั่น (Carrera Black Edition)

สตุ๊ดการ์ท. ปอร์เช่ส่งรุ่นพิเศษของ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) และบ็อกซเตอร์ (Boxster) ออกมาให้ยลโฉมแล้ว คือเวอร์ชั่น แบล็ค อิดิชั่น (Black Edition) ซึ่งเป็นปอร์เช่ที่ผสมผสานภายนอกและภายในด้วยสีดำไว้อย่างลงตัว โดยเน้นให้เห็นรูปลักษณ์ที่เหนือกาลเวลา คลาสสิค หรูหรา ตามแบบฉบับรถสปอร์ตได้เป็นอย่างดี ไม่เพียงเท่านี้ ปอร์เช่ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) และบ็อกซเตอร์ (Boxster) รุ่นพิเศษที่มีจำนวนจำกัดนี้ยังได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นมาตรฐานให้กับรถอย่างครบครัน อาทิเช่น ระบบ Porsche Communication Management (PCM) ที่มาพร้อมกับระบบค้นหาเส้นทาง ระบบตัดแสงสะท้อนกระจกมองหลังอัตโนมัติ (automatically dimming rear-view mirrors) ระบบ Cruise control และพวงมาลัยสปอร์ต Sport Design steering wheel เป็นต้น

 

911 คาร์เรร่า แบล็ค อิดิชั่น (911 Carrera Black Edition) รุ่นธรรมดาจะมาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาด 3.4 ลิตรเครื่องยนต์ Flat Engine ที่มีสมรรถนะสูงสามารถผลิตพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดได้ถึง 350 แรงม้า (257 กิโลวัตต์) โดยมีให้เลือกทั้งรุ่นคูเป้และรุ่นเปิดประทุนอย่างคาบริโอเลต ทุกรุ่นมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ล้อขนาด 20 นิ้วลาย 911 Turbo Wheels และไฟหน้าแบบ LED ที่มาพร้อมกับระบบไฟ Porsche Dynamic Light System Plus (PDLS+) เป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์มาตรฐานที่ได้รับการติดตั้งเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับรถรุ่นนี้ด้วยเช่นกัน ภายในสีดำเข้มทำให้รถมีเสน่ห์น่าค้นหามากยิ่งขึ้น ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะนั่งอยู่บนเบาะนั่งแบบสปอร์ต ภายในรถได้รับการติดตั้งเครื่องเสียงแบบ Bose Surround Sound System ให้ความสุนทรีย์ในยามขับขี่อย่างลงตัวด้วยคุณภาพของเสียงที่ยอดเยี่ยม และ 911 รุ่นพิเศษนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่มากยิ่งขึ้นด้วยระบบโทรศัพท์ Telephone Module และระบบช่วยจอด Park Assist ทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่มาพร้อมกับกล้องมองหลังอีกด้วย

 

ส่วนรุ่นบ็อกซเตอร์ แบล็ค อิดิชั่น (Boxster Black Edition) ด้วยความที่มีเสน่ห์ไม่แพ้กัน เครื่องยนต์แบบวางกลาง 
โร้ดสเตอร์ มีขนาด 2.7 ลิตร Flat engine มาพร้อมกับพละกำลังเครื่องยนต์สูงสุดที่ 265 แรงม้า (195 กิโลวัตต์) แนวคิดสีดำได้ถูกนำไปใช้กับหลังคาผ้าใบและบาร์ป้องกัน (Rollover protection bar) ด้วยเช่นกัน ระบบ Wind deflector จะช่วยกันลมขณะเปิดประทุนได้เป็นอย่างดี ล้อขนาด 20 นิ้วลาย Carrera Classic มาพร้อมกับระบบไฟหน้าไบซีนอลและระบบไฟ Porsche Dynamic Light System (PDLS) เพิ่มความโดดเด่นให้กับรถ ไม่เพียงเท่านี้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารจะได้รับความสะดวกสบายเพิ่มเติมจากระบบปรับอุณหภูมิแยกแบบ two-zone air conditioning หรือเบาะนั่งแบบให้ความร้อนได้ ระบบเสียงในรุ่นบ็อกซเตอร์ แบล็ค อิดิชั่น (Boxster Black Edition) จะมาพร้อมกับเสียงแบบ Sound Package Plus คุณภาพสูง

 

แบล็ค อิดิชั่น (Black Edition) ทั้ง 5 รุ่นจะเริ่มเปิดรับจองตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2015 เป็นต้นไป  

 

รุ่น 911 คาร์เรร่า แบล็ค อิดิชั่น (911 Carrera Black Edition): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง: ในเมือง 13.111.3 ลิตร/100 กิโลเมตร; (7.63-8.85 กิโลเมตร/ชั่วโมง) นอกเมือง 7.56.6 ลิตร/100 กิโลเมตร; (13.33-15.15 กิโลเมตร/ลิตร) เฉลี่ย 9.58.2 ลิตร/100 กิโลเมตร; (10.53-12.2 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 223191 กรัม/กิโลเมตร;

 

รุ่น บ็อกซเตอร์ แบล็ค อิดิชั่น (Boxster Black Edition): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง: ในเมือง 11.810.9 ลิตร/100 กิโลเมตร; (8.47-9.17 กิโลเมตร/ลิตร) นอกเมือง 6.46.2 ลิตร/100 กิโลเมตร; (15.62-16.12 กิโลเมตร/ลิตร) เฉลี่ย 8.47.9 ลิตร/100 กิโลเมตร; (11.90-12.65 กิโลเมตร/ลิตร) อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) อยู่ที่ 195183 กรัม/กิโลเมตร;


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิชคาร์กรุ๊ป รวมพลลูกค้าซุปเปอร์คาร์หรู จัดงานเลี้ยงปีใหม่ชื่นมื่น

ซูซูกิ เปิดโชว์รูม Big Bike Central Bangkok ย่านพระราม 3 อย่างยิ่งใหญ่

พิธีเปิดบริษัท เท็น ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด กล้วยน้ำไท โดยมีคุณกร ทัพพะรังสี ร่วมงาน