การแข่งขัน Sports Car World Endurance Championship WEC, รอบ 3 ในรายการ 24 Hours of Le Mans/ France - GT
Patrick Dempsey คว้าอันดับ 2 ในรายการLe Mans ด้วยรถยนต์ปอร์เช่
911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) สร้างจาก 911 รถสปอร์ตรุ่นที่ 7 โดยออกแบบให้เน้นน้ำหนักเบา มีความสมดุลตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งนักแข่งทั้ง 3 คน มีความตั้งใจและพยายามรายการ Le Mans นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงท้ายของการแข่งขัน หลังจากตกอันดับในช่วงเช้า แต่ในช่วงกลางวันนั้น Patrick Long พยายามอย่างหนักส่งผลให้เขากลับขึ้นมาอยู่ในอันดับ3 โดยใช้ความสามารถและศักยภาพของรถยนต์ปอร์เช่หมายเลข 77 อย่างเต็มที่ และนำมาซึ่งความสำเร็จนี้ได้อย่างงดงาม นั่นคือการเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 2
หลังจากธงปล่อยตัวผ่านไป 3 ชั่วโมงครึ่ง รถของMichael Christensen (เดนมาร์ก), Richard Lietz (ออสเตรีย) และ Jörg Bergmeister (เยอรมนี) ราวกับขึ้นไปยึดครองตำแหน่งบนโพเดี่ยมได้ด้วย 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) เขาเข้า Pit Stops 2 ครั้งเพื่อตรวจสอบรถ ซึ่งทำให้เสียเวลาไปกว่า 30 นาที และทำให้โอกาสขึ้นอันดับ 3 นั้นเป็นไปได้ยาก ในขณะที่เพื่อนร่วมทีมของพวกเขาอย่าง Patrick Pilet (ฝรั่งเศส), Frédéric Makowiecki (ฝรั่งเศส) and Wolf Henzler (เยอรมนี) ต้องพบกับฝันร้ายในรายการ Le Mans นี้เพราะเพียงแค่ชั่วโมงแรก พวกเขาก็ประสบกับปัญหาที่เกี่ยวกับระบบส่งกำลังเสียแล้ว
Dr. Frank-Steffen Walliser หัวหน้าฝ่ายมอเตอร์สปอร์ต ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแข่งขันนี้ว่า: “วันนี้เป็นฤกษ์ดีสำหรับปอร์เช่ เราภูมิใจกับนักแข่งทุกคนที่เข้าร่วมและคว้าชัยครั้งที่ 17 นี้ให้กับปอร์เช่ในรายการLe Mans สำหรับรุ่น GT นั้นเราไม่ได้คาดหวังผลเหมือน Le Mans พวกเราทำได้ดีในเรื่องของกลยุทธ์และเป็นการแข่งขันที่เหมาะสมกับรถหมายเลข 91 แต่ต้องประสบปัญหาทางเทคนิคกับ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) ทำให้เราต้องกลับไปจุดเดิม และเป็นเรื่องน่ายินดีอย่างยิ่งที่ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) สามารถขึ้นไปคว้าอันดับ 2 บนโพเดี่ยมโดย Patrick Dempsey, Patrick Long และ Marco Seefried ได้สำเร็จ
Richard Lietz ผู้ขับ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) หมายเลข 91 กล่าวว่า: “ช่วงสัปดาห์ที่ Le Mans คือช่วงความตื่นเต้น ในรอบคัดเลือกเราทำเวลาตามหลังเพียงแค่ 1.6 วินาที ยางและความร้อนทำให้เราประสบปัญหา แต่ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) ก็พัฒนาและปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว การขับขี่เป็นไปได้ด้วยความสนุกสนาน และในตอนกลางคืนเราสามารถกลับขึ้นไปยึดครองตำแหน่งที่ 2 ได้สำเร็จ แต่ภายหลังเราก็ต้องประสบกับความโชคร้ายจากโช๊ค ซึ่งไม่สามารถแก้ไขได้ โดยเราเรียนรู้จากเหตุการณ์ สำหรับผมนั้นLe Mans คือการแข่งขันที่พิเศษและไม่เหมือนใคร ผมเฝ้ารอคอยการแข่งขัน Le Mans ในปี 2016 แล้ว”
Michael Christensen: “ประสบการณ์ครั้งแรกของผมที่Le Mans คือประสบการณ์ที่น่าจดจำ เพื่อนร่วมทีมของผมได้เล่าเกี่ยวกับการแข่งขันก่อนที่จะลงแข่ง แต่ความคาดหวังของผมนั้นเกินกว่าที่เป็นจริง แต่ก็เป็นเรื่องน่าเศร้าเพราะเรื่องราวที่ไม่ได้จบด้วยดีนักในครั้งนี้”
Jörg Bergmeister: “การแข่งขันนั้นมีความหลากหลายแม้ไม่เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ แต่เราก็รอให้ถึงการแข่งขันครั้งหน้าแล้ว และคงมีความสุขมากที่จะได้กลับไปยืนบนโพเดี่ยม แต่ก็ต้องพบปัญหาทางเทคนิคเสียก่อน ซึ่งสิ่งนี้เกิดขึ้นได้เสมอในการแข่งขัน 24-hour race แต่ Le Mans จะยังคงเป็นไฮไลท์สำคัญประจำปีของผม”
Patrick Dempsey ผู้ขับ 911 อาร์เอสอาร์ (911 RSR) หมายเลข 77: “Le Mans คือการแข่งขันที่วิเศษสุด เป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมเสมอ สำหรับเรานั้นชั่วโมงสุดท้ายของการแข่งขันเป็นการต่อสู้กันอย่างดุเดือดแต่ทีมของเราได้พยายามอย่างหนักและทำทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้ เราจึงได้รับรางวัลบนโพเดี่ยม เพียงเท่านี้ความเหนื่อยและการทำงานอย่างหนักจากที่ผ่านมาหลายอาทิตย์ รวมถึงหลายเดือนนั้นมีค่ามากแล้ว ผมภูมิใจในทีมของผม”
Patrick Long: “เป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยม สำหรับผมไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ความเร็วสำหรับ Le Mans นั้นเหลือเชื่อ และความต้องการของผมคือการทำให้รถกลับบ้านโดยไม่พังหรือไม่มีรอยใดๆ หากจะถามผมว่าได้เรียนรู้อะไร หนึ่งสิ่งที่ผมเคยได้เรียนรู้จาก Le Mans ครั้งที่ 12 นั้นคือเมื่ออยู่ในสถาการณ์ที่คับขัน รถของคุณต้องสมบูรณ์แบบ และเมื่อได้รับโอกาส นี่เป็นครั้งที่3 ใน Le Mans แล้วที่ผมเข้าร่วมพร้อม Patrick และเราจะยังคงฝันและพยายามไขว่คว้าตำแหน่งบนโพเดี่ยมร่วมกันอีกครั้ง ในตอนนี้ความฝันของผมได้กลายเป็นจริงแล้ว
Marco Seefried: “เราพบเจอกับประสบการณ์มากมายระหว่างการแข่งขัน เมื่อผมได้เห็นที่ Pits ผมรู้สึกถึงหัวใจเต้นแรงกว่าตอนอยู่ในรถเสียอีก เป็นครั้งแรกสำหรับผมในการแข่งขัน Le Mans เริ่มต้นจากความเคารพในทุกสนามและทำงานอย่างหนัก Le Mans เป็นการแข่งขันที่มีเสน่ห์ แต่ผมไม่เคยคิดเลยว่าความเร็วขนาดนี้จะสามารถรักษาไว้ได้ตลอดเส้นทางทั้งหมด เป็นงานที่ยากแต่พวกเราก็ทำสำเร็จ”
ผลการแข่งขัน
GTE-Pro class
1.Gavin/Milner/Taylor (GB/USA/USA), Chevrolet Corvette, 337 laps
2.Rigon/Calado/Beretta (I/GB/MC), Ferrari 458 Italia, 332
3.Bruni/Vilander/Fisichella (I/SF/I), Ferrari 458 Italia, 330
4.Sörensen/Thiim/Nygaard (DK/DK/DK), Aston Martin, 330
5.Lietz/Christensen/Bergmeister (A/DK/D), Porsche 911 RSR, 327
6.MacDowall/Stanaway/Rees (GB/NZ/BRA), Aston Martin, 3320
GTE-Am class
1.Collard/Perrodo/Aguas (F/F/P), Ferrari 458 Italia, 332 laps
2.Dempsey/Long/Seefried (USA/USA/D), Porsche 911 RSR, 331
3.Sweedler/Bell/Segal (USA/USA/USA), Ferrari 458, 330
4.Perrodo/Collard/Aguas (F/F/P), Ferrari 458 Italia, 330
5.Giammaria/Mann/Cressoni (I/GB/I), Ferrari 458 Italia, 326
6.Chen/Vanellet/Parisy (TWN/F/F), Porsche 911 RSR, 320
7.Chen/Kapadia/Maassen (TWN/GB/NL), Porsche 911 GT3 RSR, 316
การแข่งขันในรอบที่ 4 ของรายการ World Endurance Championship WEC จะเริ่มขึ้นในวันที่ 30 สิงหาคม
ณ สนาม Nürburgring.
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น