มาสด้าเปิดตัว CX-3 ครั้งแรกกับรถฟรีสไตล์ ครอสโอเวอร์ มองโลกมุมใหม่...อิสระไร้ขีดจำกัด

✓ สมรรถนะการขับขี่อันทรงพลังด้วยเครื่องยนต์คลีนดีเซล สกายแอคทีฟ-ดี ขนาด 1500 ซีซี         พร้อมเทอร์โบแปรผันที่มีน้ำหนักเบาประหยัดน้ำมัน 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร
✓ เครื่องยนต์เบนซินประสิทธิภาพสูง สกายแอคทีฟ-จี 2000 ซีซี 156 แรงม้า                 ทั้งแรงทั้งประหยัดน้ำมัน 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร
✓ อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟทั้งคัน
✓ โดดเด่นสวยสง่างามด้วยโคโดะ ดีไซน์
✓ เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกันมาสด้าi-ACTIVSENSE เต็มรูปแบบครั้งแรกของรถ         ในกลุ่มซับคอมแพ็คครอสโอเวอร์เอสยูวี
✓ ชื่อมต่อโซเชียลมีเดียกับเทคโนโลยี MZD Connect

รุงเทพฯ – ประเทศไทย10 พฤศจิกายน 2558  มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคต เปิดตัวแนะนำรถยนต์ ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ ออล-นิว มาสด้า ซีเอ็กซ์-สกายแอคทีฟใหม่ “ALL NEW MAZDA CX-3” FREESTYLE CROSSOVER ภายใต้คอนเซ็ปต์ “SEE THE WORLD IN NEW ANGLE” มองโลกมุมใหม่...อิสระไร้ขีดจำกัด อย่างเป็นทางการ และเป็นรถสกายแอคทีฟโมเดลรุ่นที่ ที่มาสด้าแนะนำสู่ตลาดประเทศไทย ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟใหม่ล่าสุดและธีมการออกแบบของรถมาสด้าเจเนอเรชั่นใหม่ โคโดะ ดีไซน์ ที่สวยงามสง่าลงตัวทุกมุมมอง ระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก ครั้งแรกของประเทศไทยที่มาสด้านำเอา เครื่องยนต์อันทรงพลัง ที่ให้สมรรถนะที่ดีที่สุดในรถระดับคอมแพ็คครอสโอเวอร์ที่มีอยู่ในตลาด ทั้งเครื่องยนต์สะอาดคลีนดีเซล ขนาด 1500 ซีซี ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร และเครื่องยนต์เบนซินพลังแรง ขนาด 2000 ซีซี. ประหยัดน้ำมันสูงสุด 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร

มาสด้าเอาใจใส่ในทุกๆ รายละเอียดของการผลิตรถยนต์ พร้อมเชื่อมต่อกับโลกโซเชียลมีเดียด้วยระบบ MZD Connect ปกป้องรอบทิศทางกับระบบความปลอดภัยระดับโลก i-Activsence เพื่อสร้างมาตรฐานใหม่กับตลาดรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์เจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ใช้ชีวิตอย่างมีไลฟ์สไตล์ตอบสนองความต้องการของการใช้ชีวิตทั้งในเมืองและนอกเมืองที่มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้นทุกๆ วัน 

นายฮิเดสึเกะ ทาเกสึเอะ ประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กล่าวว่า การเปิดตัวมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ใหม่ ในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์ ที่ลูกค้าจะได้ทั้งรูปลักษณ์อันสวยงาม สมรรถนะความแรงและความประยัดน้ำมัน มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์คลีนดีเซลและเครื่องยนต์เบนซินประสิทธิภาพสูง การมาของมาสด้า ซีเอ็กซ์-ในครั้งนี้นับเป็นสกายแอคทีฟโมเดลที่ หลังจากที่มาสด้าได้ส่ง ซีเอ็กซ์-5 ตามมาด้วยมาสด้าและมาสด้าจนประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมในตลาดเมืองไทย โดยมียอดขายรวมแล้วกว่า 40,00คัน ที่สำคัญการเปิดตัวในครั้งนี้จะส่งผลให้มาสด้าสามารถบรรลุเป้าหมาย 45,000 คันภายปีงบประมาณนี้ เนื่องจากมาสด้าให้ความสำคัญกับการตั้งราคาจำหน่ายเพื่อให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายๆ โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง แสนต้นๆ และคาดว่าจะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วมียอดขายสูงกว่า 6,000 คันต่อปี

สำหรับปีนี้ นับเป็นอีกปีที่มาสด้าได้ทยอยเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เริ่มพิสูจน์ให้เป็นที่ประจักษ์แล้วว่า ลูกค้าชาวไทยให้การตอบรับรถยนต์มาสด้าและเทคโนโลยีสกายแอคทีฟเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ยอดขาย10 เดือนของปีนี้ (มกราคม-ตุลาคม) มาสด้าสามารถบรรลุยอดขายสูงถึง 29,641 คัน ท่ามกลางตลาดที่หดตัวลงแต่มาสด้าสามารถเติบโตสวนกระแส จนสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงถึง 4.8แบ่งเป็นรถยนต์นั่งมาสด้า2 จำนวน 14,695 คัน รถยนต์นั่งมาสด้าจำนวน 5,801 คัน รถอเนกประสงค์เอสยูวีมาสด้า ซีเอ็กซ์-จำนวน 2,745 คัน รถปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร จำนวน 6,357 คัน และรถในกลุ่มพรีเมียมคาร์อีกจำนวน 17 คัน

นายฮิเดสึเกะ ทาเกสเอะ กล่าวว่าเพิ่มเติมว่า การเปิดตัวมาสด้า ซีเอ็กซ์-ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจของชาวมาสด้า ที่เกิดจากร่วมมือเป็นอย่างดียิ่งระหว่างมาสด้า เซลส์ ประเทศไทย กับมาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น จนได้มาซึ่งรถยนต์ที่เกิดจากสายการผลิตในประเทศไทย ณ โรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ จังหวัดระยอง โดยฝีมือของคนไทยเพื่อคนไทย มาสด้าให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับระบบเศรษฐกิจของอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย มาสด้าลงทุนกว่า 12,000 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตในโรงงานประกอบรถยนต์ออโต้อัลลายแอนซ์ เพื่อทำการผลิตรถยนต์มาสด้าในโครงการรถประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล ระยะที่ และการลงทุนอีกว่า 11,000 ล้านบาท ในโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติ สกายแอคทีฟ และอีกกว่า 3,000 ล้านบาท สำหรับโรงงานผลิตเครื่องยนต์ สกายแอคทีฟ และล่าสุดกับการเพิ่มการลงทุนเพื่อผลิตรถยนต์มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 อีกกว่า 800 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดได้เสร็จสมบูรณ์เริ่มทำการผลิตและพร้อมที่จะจำหน่ายแล้ว

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดกล่าวว่า การเปิดตัวมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ในครั้งนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับชาวมาสด้า เพราะมาสด้ามีการเตรียมการสื่อสารและสร้างการรับรู้ของลูกค้าเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และโคโดะ ดีไซน์ อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดจนเป็นที่คาดหวังอย่างมากของลูกค้า ซึ่งจุดเด่นสำคัญที่จะทำให้มาสด้าประสบความสำเร็จในการนำฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์มาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ใหม่ เข้าสู่ตลาดในครั้งนี้ คือ การนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่ได้รับความนิยมมาแล้วจากทั่วทุกมุมโลกรวมทั้งประเทศไทยนับเป็นการเข้าสู่ตลาดรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์เพื่อจะสร้างมาตรฐานใหม่ให้เกิดขึ้น ด้วยเครื่องยนต์อันทรงพลังทั้ง เครื่อง เพียบพร้อมด้วยคุณภาพของวัสดุที่นำมาประกอบระดับเกรดพรีเมียม และรูปลักษณ์อันงามสง่าสวยปราดเปรียวที่สุดในคลาส

สำหรับแนวทางการสื่อสารการตลาด มาสด้า ซีเอ็กซ์-ใหม่ มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “FREESTYLE CROSSOVER เป็นครั้งแรกของรถ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของการใช้ชีวิตในและนอกเมืองที่มีหลากหลายเพิ่มมากขึ้นทุกวัน ลูกค้ากลุ่ม“YUCCIES” หรือ Young Urban Creatives ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะมีทัศนคติแบบคิดนอกกรอบมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร มีความเป็นตัวของตัวเอง ทำสิ่งที่ชอบในแบบที่ตนเองชอบ ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่มีแบรนด์ที่ชอบเฉพาะของตนเอง มีกำลังซื้อสูงและการศึกษาที่ดี สิ่งสำคัญที่จะทำให้มาสด้า ซีเอ็กซ์-ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์ ได้รับการตอบรับจากตลาดและรับประกันความสำเร็จในประเทศไทยอย่างรวดเร็ว ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นดังนี้ คือ

➢ ประการแรก คือ การออกแบบ ด้วยรูปลักษณ์อันสง่างามธีมการออกแบบของรถในเจเนอเรชั่นที่ 6 ภายใต้ “โคโดะ ดีไซน์” SOUL of MOTION หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวที่งดงามในรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ฟรีสไตล์ครอสโอเวอร์รุ่นล่าสุดจากสายการผลิตในประเทศไทย
➢ ประการที่สอง คือ รถยนต์คันนี้อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ และวัสดุคุณภาพสูงที่นำมาผลิตอย่างปราณีต

มาสด้า ซีเอ็กซ์-ใหม่ ถูกออกแบบให้มีสมรรถนะการขับขี่ที่ดีที่สุดในตลาด ที่จะให้ประสบการณ์การขับขี่แบบที่ไม่มีรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์คันไหนสามารถทำได้มาก่อน นั่นคือ 

✓ เครื่องยนต์ SKYACTIV ENGINE มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล SKYACTIV-D เจนเนอเรชั่นใหม่ของมาสด้า ขนาด 1500 ซีซี. พร้อมเทอร์โบแปรผันที่มีน้ำหนักเบา แรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 270 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร
✓ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2000 ซีซี. แรงม้าสูงสุด 156 รงม้า แรงบิดสูงสุด 204 นิวตัน-เมตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันสูงถึง 16.4 กิโลเมตรต่อลิตร
✓ SKYACTIV-DRIVE เกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ สปีด ให้อารมณ์การตอบสนองที่แม่นยำเฉกเช่นเดียวกับเกียร์ธรรมดา ให้ความแรงและให้ประสิทธิภาพของการประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม โดยกำลังจากเครื่องยนต์ถูกส่งไปยังตัวถังและล้ออย่างสมบูรณ์แบบและลดการสูญหายของกำลัง จึงยังคงความแรงและให้ประสิทธิภาพของการประหยัดน้ำมันมากขึ้นกว่าเดิม
✓ SKYACTIV-BODY โครงสร้างตัวถังสกายแอคทีฟ ซึ่งเป็นโครงสร้างของรถยนต์ยุคใหม่ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อให้มีน้ำหนักที่เบาลงเหมาะสมกับขนาดและกำลังของเครื่องยนต์ และเพิ่มโลหะเกรดพรีเมียมเหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High Tensile Steel) ที่แข็งแกร่งแต่มีน้ำหนักเบาทดแทนเหล็กประเภทเดิม อีกทั้งยังเพิ่มจุดเชื่อมยึดเพื่อให้โครงสร้างหลักกับโครงสร้างส่วนอื่นของรถเป็นมวลเดียวกัน จึงให้ความมั่นคงกว่า ปลอดภัยกว่า พร้อมทั้งประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น
✓ SKYACTIV-CHASSIS ช่วงล่างและระบบบังคับเลี้ยวสกายแอคทีฟ ให้ความรู้สึกในการขับที่เกาะถนนมั่นคง ขณะที่ความนุ่มนวลของช่วงล่างยังคงอยู่ ซึ่งระบบบังคับเลี้ยวระบบใหม่ให้ความมั่นใจในการควบคุมรถขณะเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำ ให้การขับขี่ที่ปลอดภัยและประหยัดน้ำมันกว่
➢ ประการที่สาม คือ i-ACTIVSENSEเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงของมาสด้าที่พัฒนาขึ้นตามปรัชญาความปลอดภัยของมาสด้า นั่นคือ Mazda Proactive Safety ที่แสดงถึงหลักความคิดของมาสด้าต่อความปลอดภัย ช่วยให้ผู้ขับได้รับรู้ถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นล่วงหน้า ช่วยให้ตัดสินใจได้ถูกต้อง เทคโนโลยีเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อช่วยป้องกันหรือลดความเสียหายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันขั้นสูงเป็นครั้งแรกในกลุ่มรถคอมแพ็คครอสโอเวอร์ได้แก่ 
✓ ABSM (Advanced Blind Spot Monitoring) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน
✓ HBC (High Beam Control) ระบบปรับไฟหน้าสูงอัตโนมัติ
✓ LDWS (Lane Departure Warning System) ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน
✓ RCTA (Rear Cross Traffic Alert) ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
✓ SCBS (Smart City Brake Support)ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติ
➢ ประการที่สี่ MZD CONNECT เป็นระบบเชื่อมต่อโลกของการสื่อสารในรถที่ได้รับการพัฒนาให้สอดคล้องตามหลัก HMI (Human-Machine Interface) ที่เรียกกันว่า แนวคิดของค็อกพิตแบบ heads-up ระบบเชื่อมต่อในรถรุ่นใหม่นี้ออกแบบมาเพื่อการขับขี่อย่างปลอดภัย ช่วยให้ผู้ขับมีสมาธิในขณะที่สามารถรับส่งข้อมูลเป็นจำนวนมากและต้องขับขี่อย่างปลอดภัยในขณะเดียวกัน

นอกจากการที่มาสด้าได้รังสรรค์ยนตรกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าสู่ตลาดแล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่มาสด้ามุ่งมั่นมาตลอดและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับมาสด้าในประเทศไทย  คือ การสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์ไว้ให้ชัดเจน ไม่ใช่เพียงแค่การสร้างรถยนต์เท่านั้น แต่คือ การสร้างความสุขให้เกิดขึ้น และเติมเต็มความสุขให้กับชีวิตของลูกค้า ตั้งแต่แรกเห็นหรือครั้งแรกที่ได้พบ และเมื่อได้สัมผัส ตลอดจนอยากจะขับรถคันนั้นอยู่เรื่อยๆ นอกจาการสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดีที่สุดแล้ว การบริการหลังการขายคือหัวใจหลักสำคัญ ที่ต้องเป็นเลิศอยู่เสมอ ไม่ใช่เพื่อสร้างให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ต้องเป็นที่รักของลูกค้าตลอดไป

# # #






ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิชคาร์กรุ๊ป รวมพลลูกค้าซุปเปอร์คาร์หรู จัดงานเลี้ยงปีใหม่ชื่นมื่น

ซูซูกิ เปิดโชว์รูม Big Bike Central Bangkok ย่านพระราม 3 อย่างยิ่งใหญ่

พิธีเปิดบริษัท เท็น ฮอนด้า ออโตโมบิล จำกัด กล้วยน้ำไท โดยมีคุณกร ทัพพะรังสี ร่วมงาน